หมอไทยไม่วางใจไวอากร้าหญิง (flibanserin) ได้ผล

จากกรณีคณะกรรมการที่ปรึกษาสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) ที่ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ลงมติ 18 ต่อ 6 ยอมรับให้มีการจำหน่ายยาฟลิแบนเซริน (flibanserin) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไวอากร้าผู้หญิง ในการประชุมเป็นครั้งที่ 3 เมื่อวันพฤหัสบดี (4 มิ.ย.) แม้มตินี้ของคณะที่ปรึกษาไม่ใช่ผลผูกมัด แต่เอฟดีเอมักปฏิบัติตาม และถ้าเอฟดีเอปฏิบัติตามผลการลงมติของคณะกรรมการที่ปรึกษาเอฟดีเอจะทำให้ยาฟลิแบนเซริน เป็นยาเสริมประสิทธิภาพทางเพศของผู้หญิงชนิดแรกที่ออกสู่ตลาด

ยาฟลิแบนเซริน เป็นยาที่ออกแบบมาให้ใช้ในกลุ่มผู้หญิงวัยก่อนหมดประจำเดือน แต่อาจจะส่งผลข้างเคียงได้ โดยผู้ใช้อาจมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ และง่วงเหงาหาวนอน

ด้าน พญ.คริสตินา จาง ตัวแทนของเอฟดีเอ ในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาเอฟดีเอ กล่าวเรียกร้องให้คณะกรรมการชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ของยาชนิดนี้กับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ใช้ยาชนิดนี้ ซึ่งเอฟดีเอมีความกังวลต่อผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นกับผู้หญิง โดยจะมีอาการง่วงซึม หน้ามืด ความดัน เลือดลดต่ำ และความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีผลกระทบต่อการใช้ยาคุมกำเนิดหรือการดื่มแอลกอฮอล์ควบคู่ไปกับการใช้ไวอากราผู้หญิงชนิดนี้

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญในคณะกรรมการที่ปรึกษาเอฟดีเอ ยังตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ในการใช้ยาฟลิแบนเซรินว่าจะถูกนำไปใช้ในทางอาชญากรรม โดยเป็นเครื่องมือในการกระตุ้น กำหนัดของผุ้หญิงเพื่อล่อลวงไปกระทำชำเรา ทั้งยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งเต้านมจากยาชนิดนี้ เนื่องจากผลการทดลองกับสัตว์ แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงดังกล่าวในตัวอย่างหนึ่งในสองของสัตว์ทดลอง

อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนของการรับฟังเสียงจากสาธารณะปรากฏว่าผู้หญิงที่ได้ทดลองใช้ยาชนิดนี้ รู้สึกว่าฟลิแบนเซริน มีประโยชน์อย่างมาก นางอะแมนดา แพร์ริช หนึ่งในผู้ที่ได้ทดลองใช้ยาฟลิแบนเซริน กล่าวว่า ตนเองเป็น 1 ใน 11,000 คนที่โชคดีได้เข้ารับการทดลองใช้ยาไวอากร้าผู้หญิงในขั้นการทดลองทางคลินิก และสามารถฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ดีกับสามีที่เลวร้ายลงมาตลอด เนื่องจากตนหมดความรู้สึกทางเพศกับสามี ซึ่งในช่วง 8 เดือนที่ได้เข้ารับการทดลอง เป็นช่วงเวลที่ทำให้ชีวิตคู่ดีขึ้นมาก

ที่ผ่านมา ยาฟลิแบนเซริน ไม่ประสบความสำเร็จในการขอรับการอนุมัติให้นำเข้าสู่ตลาด เนื่องจากในการประชุมของเอฟดีเอ เมื่อปี 2553 และ 2556 ไม่มีการอนุมัติให้ยาชนิดนี้ออกจำหน่ายได้ โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่าผลเปรียบเทียบกับยาหลอกยังไม่ชัดเจน

ขณะที่ ศ.นพ.สมบุญ เหลืองวัฒนากิจแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ทั่วโลกมีการทดลองเกี่ยวกับยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศผู้หญิงเป็นจำนวนมาก โดยการทดลองในสัตว์ทดลอง พบว่าทำให้คลิตอริสหรือปุ่มกระสันของเพศหญิงพองตัวและมีสารคัดหลั่งมากขึ้น จึงคาดว่าน่าจะใช้ยานี้ช่วยในผู้หญิงที่มีปัญหาไม่ถึงจุดสุดยอดหรือไคลแม็กซ์ได้ แต่เมื่อนำยานี้มาทดลองในคน โดยเทียบกับยาหลอก พบว่ายานี้ให้ผลไม่แตกต่างจากยาหลอก ที่ผ่านมาจึงยังไม่เห็นว่ามีการวิจัยจากที่ไหนประสบความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนายานี้ในคน แต่เชื่อว่าถ้ามีการคัดกรองอาสาสมัครผู้หญิงที่มีปัญหาไม่ถึงจุดสุดยอดแต่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่ต่ำ ก็น่าจะช่วยให้งานวิจัยเห็นความแตกต่างระหว่างยาจริงกับยาหลอก

“ที่ผ่านมามีการสำรวจพบว่า ผู้หญิงหลังอายุ 40 ปีขึ้นไป 50% จะมีปัญหาไม่ถึงจุดสุดยอด แต่ในประเทศไทยยังไม่มีการสำรวจเป็นการเฉพาะ แต่คาดว่าอัตราไม่แตกต่างกันเนื่องจากก่อนหน้านี้มีการสำรวจเพศชายในสหรัฐอเมริการ อายุ 40-70ปี พบว่า 52% มีปัญหาทางเพศ ต่อมามีการสำรวจในประเทศแตกต่าง อัตราก็ใกล้เคียงกันคือระหว่าง 30-60% ส่วนการรักษาในปัจจุบันมีงานวิจัยพบว่าผู้หญิงที่ไม่ถึงจุดสุดยอด เพราะฮอร์โมนเพศชายต่ำ ก็จะให้ฮอร์โมนเพศชายชดเชย แต่อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเกิดจากปัญหาทางจิตใจยังไม่มียารักษา” ศ.นพ.สมบุญ กล่าว

ที่มา
คม ชัด ลึก. หมอไทยไม่วางใจไวอากร้าหญิงได้ผล. ฉบับวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558 หน้า 11

1 thought on “หมอไทยไม่วางใจไวอากร้าหญิง (flibanserin) ได้ผล

Leave a comment